แนวข้อสอบ
พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
ตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
ก. ผู้รับใบอนุญาตจัดหางานตามพระ ราชบัญญัตินี้
ข. บุคคลซึ่งประสงค์จะทำงาน โดย เรียกหรือรับค่าจ้างเป็นเงินหรือประโยชน์อย่างอื่น
ค. ผู้ซึ่งผู้รับอนุญาตจดทะเบียนให้ เป็นตัวแทนจัดหางานตามพระราชบัญญัตินี้
ง. ไม่มีข้อถูก
ตอบ ค.ผู้ซึ่งผู้รับอนุญาตจดทะเบียนให้ เป็นตัวแทนจัดหางานตามพระราชบัญญัตินี้
ก. 6 หมวด 69 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ข. 7 หมวด 69 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ค. 6 หมวด 96 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ง. 7 หมวด 96 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ตอบ ง. 7 หมวด 96 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ก. กรมการจัดหางาน
ข. สำนักจัดหางาน กรมการ จัดหางาน
ค. บริษัทจัดหางาน
ง. สำนักจัดหางาน
ตอบ ข. สำนักจัดหางาน กรมการ จัดหางาน
มาตรา 7 ให้จัดตั้งสำนักงานจัดหางานขึ้นในกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เรียกว่า "สำนักจัดหางาน กรมการ จัดหางาน" มีหน้าที่จัดหางานให้แก่ประชาชนโดยไม่คิดค่าบริการ
ก. นายทะเบียน
ข. คณะกรรมการกองทุน
ค. อธิบดีกรมการจัดหางาน
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
ตอบ ก. นายทะเบียน
ก. นายทะเบียนจัดหางานกลาง
ข. ทะเบียนจัดหางานจังหวัด
ค. อธิบดีกรมการจัดหางาน
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
ตอบ ก.นายทะเบียนจัดหางานกลาง
มาตรา 6 ให้จัดตั้งสำนักงานทะเบียนจัดหางานกลางขึ้นในกรมการจัด หางาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม โดยมีนายทะเบียนจัดหางาน กลางเป็นผู้มีอำนาจและหน้าที่พระราชบัญญัตินี้
ในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานคร จะจัดตั้งสำนักงานทะเบียนจัดหา งานจังหวัดขึ้นตรงต่อสำนักงานทะเบียนจัดหางานกลางก็ได้ โดยมีนาย ทะเบียนจัดหางานจังหวัดเป็นผู้มีอำนาจและหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้
ก. มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
ข. ไม่เป็นผู้รับอนุญาตจัดหางาน
ค. ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตจัดหางาน
ง. ไม่เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือผู้จัดการของนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้รับ อนุญาตจัดหางาน
ตอบ ก. มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
มาตรา 9 ผู้ขออนุญาตจัดหางานในประเทศต้องมีคุณสมบัติ และไม่มี ลักษณะต้องห้ามดังนี้ (1) มีสัญชาติไทย
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
(3) ไม่เป็นผู้รับอนุญาตจัดหางาน
(4) ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตจัดหางาน
(5) ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตจัดหางาน
(6) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(7) ไม่เป็นผู้มีหรือเคยมีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีล ธรรมอันดี
(8) ไม่เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือผู้จัดการของนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้รับ อนุญาตจัดหางาน
(9) ไม่เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือผู้จัดการของนิติบุคคลซึ่งถูกเพิกถอน ใบอนุญาตจัดหา
งานหรืออยู่ในระหว่างใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต จัดหางาน (10) ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดหรือคำสั่งที่ชอบด้วย กฎหมายให้จำคุก
ในความผิดที่กฎหมายบัญญัติให้ถือเอาการกระทำโดยทุจริต เป็นองค์ประกอบ หรือใน
ความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ (11) มีหลักประกันเป็นจำนวนเงินตามที่กำหนดในกฎกระทรวงแต่ต้องไม่ น้อยกว่าหนึ่ง
แสนบาทวางไว้กับนายทะเบียน เพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติ ตามพระราชบัญญัตินี้
ก. 2 ปี ค. 4 ปี
ข. 3 ปี ง. 5 ปี
ตอบ ก.2 ปี
มาตรา 10 ใบอนุญาตให้ใช้ได้ภายในเขตจังหวัดที่นายทะเบียนระบุไว้ ในใบอนุญาตมีกำหนดสองปีนับแต่วันที่ออกใบอนุญาต
ก. 20 วัน ค. 45 วัน
ข. 30 วัน ง. 60 วัน
ตอบ ข.30 วัน
ก. 20 วัน ค. 45 วัน
ข. 30 วัน ง. 60 วัน
ตอบ ข.30 วัน
ก. นายทะเบียน
ข. คณะกรรมการกองทุน
ค. อธิบดีกรมการจัดหางาน
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
ตอบ ก. นายทะเบียน
มาตรา 12 ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตจัดหางานในประเทศประสงค์จะขอย้าย สำนักงานหรือขอตั้งสำนักงานชั่วคราวนอกเขตท้องที่ที่ได้รับอนุญาตให้ยื่นคำขอ ต่อนายทะเบียน
มาตรา 13 ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตจัดหางานในประเทศประสงค์จะเปลี่ยน ผู้จัดการให้ยื่นคำขอต่อนายทะเบียน
ก. 60 วัน ค. 45 วัน
ข. 90 วัน ง. 30 วัน
ตอบ ง. 30 วัน
ก. 15 วัน ค. 10 วัน
ข. 30 วัน ง. 7 วัน
มาตรา 21 ผู้จัดการ ลูกจ้าง หรือตัวแทนจัดหางาน ซึ่งพ้นจากความ เป็นผู้จัดการลูกจ้างหรือตัวแทนจัดหางาน ต้องส่งคืนบัตรประจำตัวแก่นาย ทะเบียนหรือผู้รับอนุญาตจัดหางานในประเทศ ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่พ้นจาก ความเป็นผู้จัดการ ลูกจ้าง หรือตัวแทนจัดหางาน
ยื่นคำขอภายในกี่วัน
ก. 15 วัน ค. 45 วัน
ข. 30 วัน ง. 20 วัน
มาตรา 22 ในกรณีที่ใบอนุญาตหรือบัตรประจำตัวสูญหายหรือถูกทำลาย ให้ผู้รับอนุญาตจัดหางานในประเทศยื่นคำขอใบแทนใบอนุญาต หรือบัตรประจำ ตัว แล้วแต่กรณีภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ทราบการสูญหายหรือถูกทำลาย
ก. นายทะเบียนจัดหางานกลาง
ข. ทะเบียนจัดหางานจังหวัด
ค. อธิบดีกรมการจัดหางาน
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
ตอบ ก. นายทะเบียนจัดหางานกลาง
ก. บริษัทจำกัด ค. ประเภทใดก็ได้
ข. บริษัทมหาชนจำกัด ง. ถูกทั้ง ก และ ข
ตอบ ง. ถูกทั้ง ก และ ข
ก. มีทุนจดทะเบียนและชำระแล้วตามที่กำหนดในกฎกระทรวง แต่ ต้องไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านบาท
ข. มีทุนเป็นของผู้ถือหุ้นที่มีสัญชาติไทย ไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวน ทุนทั้งหมด และจะต้องมีจำนวนผู้ถือหุ้นที่มีสัญชาติไทย ไม่น้อยกว่าสามในสี่ของ จำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด
ค. มีหลักประกันเป็นจำนวนเงินตามที่กำหนดในกฎกระทรวง แต่ต้อง ไม่น้อยกว่าห้าแสนบาทวางไว้กับนายทะเบียนจัดหางานกลาง เพื่อเป็นหลัก ประกันการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ในกรณีเลิกประกอบธุรกิจจัดหางาน ผู้รับอนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงาน ในต่างประเทศจะขอรับคืนหลักประกันที่วางไว้ตาม มาตรา 31 (7) ได้ก็ ต่อเมื่อได้ชำระหนี้ที่เกิดขึ้นตามพระราชบัญญัตินี้เสร็จสิ้นแล้ว แต่ถ้า หนี้ที่เหลือมีจำนวนน้อยกว่าหลักประกันที่วางไว้ ให้นายทะเบียนมีอำนาจสั่งให้ ลดหลักประกันลงให้เหลือเท่ากับหนี้ที่จะพึงรับผิดชอบได้
ก. 1 ปี ค. 4 ปี
ข. 2 ปี ง. 5 ปี
ตอบ ง. 5 ปี
ก. ส่งสัญญาจัดหางานที่ผู้รับอนุญาตจัดหางานในต่างประเทศ หรือตัว แทนจัดหางานทำกับคนหางานต่ออธิบดี
ข. ส่งคนหางานเข้ารับการตรวจสุขภาพตามหลักเกณฑ์ และวิธีการ ณ สถานพยาบาลที่อธิบดีประกาศกำหนด
ค. ส่งคนหางานเข้ารับการทดสอบฝีมือตามหลักเกณฑ์ที่อธิบดีกรมพัฒนา ฝีมือแรงงานประกาศกำหนด
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
มาตรา 36 ในการจัดส่งคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ผู้รับ อนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้
(1) ส่งสัญญาจัดหางานที่ผู้รับอนุญาตจัดหางานในต่างประเทศ หรือตัว แทนจัดหางานทำกับคนหางานต่ออธิบดี ตลอดจนเงื่อนไขการจ้างแรงงานที่ นายจ้างในต่างประเทศ หรือตัวแทนซึ่งได้รับมอบอำนาจจากนายจ้างดังกล่าว ทำกับคนหางาน และหลักฐานอื่นที่อธิบดีประกาศกำหนดเพื่อพิจารณาอนุญาต ก่อนส่งคนหางานไปต่างประเทศ
(2) ส่งคนหางานเข้ารับการตรวจสุขภาพตามหลักเกณฑ์ และวิธีการ ณ สถานพยาบาลที่อธิบดีประกาศกำหนด
(3) ส่งคนหางานเข้ารับการทดสอบฝีมือตามหลักเกณฑ์ที่อธิบดีกรมพัฒนา ฝีมือแรงงานประกาศกำหนด
(4) ส่งคนหางานที่ผ่านการคัดเลือก และทดสอบฝีมือแล้วเข้ารับการ อบรมเกี่ยวกับกฎหมายและขนบธรรมเนียนประเพณีของประเทศที่คนหางานจะ ไปทำงาน ตลอดจนสภาพการจ้าง ณ สำนักงานทะเบียนจัดหางานกลาง สำนักงานทะเบียนจัดหางานจังหวัด หรือสถาบันอื่นใดที่อธิบดีประกาศกำหนด
(5) ส่งบัญชีรายชื่อและสถานที่ทำงานในต่างประเทศของคนหางาน พร้อมทั้งสำเนาสัญญาว่าจ้างแรงงานให้แก่นายทะเบียนจัดหางานกลางภายใน เจ็ดวันนับแต่วันที่คนหางานออกเดินทาง
(6) แจ้งเป็นหนังสือโดยแนบบัญชีรายชื่อ และสถานที่ทำงานในต่างประ เทศของคนหางานตาม (5) ให้สำนักงานแรงงานไทยในประเทศที่คนหางาน ไปทำงานทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่คนหางานเดินทางไปถึง ในกรณีที่ไม่ มีสำนักงานแรงงานไทยในประเทศดังกล่าว ให้แจ้งเป็นหนังสือให้สถานทูต ไทยหรือสถานกงสุลไทยในประเทศนั้น หรือสถานทูตไทยหรือสถานกงสุลไทย หรือผู้ที่รับผิดชอบในการดูแลคนไทยในประเทศนั้น ทราบภายในระยะเวลา ดังกล่าว
(7) รายงานให้นายทะเบียนจัดหางานกลางทราบ ภายในวันที่สิบของ เดือนถัดไปเป็นประจำทุกเดือน ในกรณีที่ยังมีคนหางานไม่ได้เดินทางไปทำ งานตามสัญญาจัดหางาน
ก. 15 วัน ค. 30 วัน
ข. 20 วัน ง. 45 วัน
มาตรา 38 ห้ามมิให้ผู้รับอนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ เรียกหรือรับค่าบริการจากคนหางาน ไว้เป็นการล่วงหน้าเกินสามสิบวันก่อน เดินทาง ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นผู้รับอนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงานในต่าง ประเทศอาจร้องขอต่อนายทะเบียนจัดหางานกลาง เพื่อขอขยายระยะเวลา ดังกล่าวได้ แต่การขยายระยะเวลาให้กระทำได้เพียงครั้งเดียวมีกำหนด เวลาไม่เกินสามสิบวัน
ก. จัดการให้คนหางานเดินทางกลับประเทศไทย โดยออกค่าพาหนะ ค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็น ให้แก่คนหางาน จนกว่าคน หางานจะเดินทางกลับถึงประเทศไทย
ข. แจ้งเป็นหนังสือให้สำนักงานแรงงานไทย ในประเทศนั้นทราบภาย ในสิบห้าวัน ถ้าไม่มีสำนักแรงงานไทย ให้แจ้งสถานทูตไทยหรือสถานกงสุล ไทยในประเทศนั้น หรือสถานทูตไทยหรือสถานกงสุลที่รับผิดชอบในการดูแล คนไทยในประเทศนั้นทราบ และส่งสำเนาหนังสือดังกล่าวให้สำนักงาน ทะเบียนจัดหางานกลางทราบด้วย
ค. ถูกทั้ง ก และ ข
ง. ไม่มีข้อถูก
ตอบ ค. ถูกทั้ง ก และ ข
ก. คนหางานได้ค่าจ้าง ตำแหน่งงาน และสิทธิ ประโยชน์อื่นตรงตามที่กำหนดไว้ในสัญญาจัดหางาน และได้ทำงานจนสัญญาจัด หางานสิ้นสุดลง แต่คนหางานไม่ยอมเดินทางกลับประเทศไทยภายในสามสิบวัน
ข. คนหางานได้ค่าจ้าง ตำแหน่งงาน หรือสิทธิ ประโยชน์อื่นตรงตามที่กำหนดไว้ในสัญญาจัดหางาน แต่ไม่ยอมปฏิบัติตามสัญญา
ค. คนหางานไม่เดินทางกลับประเทศไทยภาย ในเก้าสิบวันโดยไม่ มีเหตุอันสมควรนับแต่วันที่ผู้รับอนุญาตได้วางเงินไว้
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
ก. อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ข. อธิบดีกรมการจัดหางาน
ข. นายทะเบียน ง. คณะกรรมการกองทุน
ตอบ ก. อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
ก. 5 ปี ค. 3 ปี
ข. 4 ปี ง. 2 ปี
ตอบ ง. 2 ปี
ก. 60 วัน ค. 30 วัน
ข. 45 วัน ง. 15 วัน
ตอบ ค. 30 วัน
ก. 60 วัน ค. 30 วัน
ข. 45 วัน ง. 15 วัน
ตอบ ค. 30 วัน
ก. 7 วัน ค. 20 วัน
ข. 15 วัน ง. 30 วัน
ตอบ ข.15 วัน
ก. อธิบดีหรือผู้ที่อธิบดี มอบหมาย ไม่น้อยกว่า 15 วัน
ข. อธิบดีหรือผู้ที่อธิบดี มอบหมาย ไม่น้อยกว่า 20 วัน
ค. อธิบดีหรือผู้ที่อธิบดี มอบหมาย ไม่น้อยกว่า 30 วัน
ง. อธิบดีหรือผู้ที่อธิบดี มอบหมาย ไม่น้อยกว่า 45 วัน
ตอบ ก. อธิบดีหรือผู้ที่อธิบดี มอบหมาย ไม่น้อยกว่า 15 วัน
ก. การส่งไปฝึกงานไม่เกิน 45 วัน ต้องแจ้งให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดี มอบหมายทราบ ตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนดก่อนลูกจ้างเดินทางออกนอก ราชอาณาจักร
ข. ถ้าลูกจ้างได้รับเงินหรือประโยชน์ที่จะพึงได้รับใน ต่างประเทศต่ำกว่าอัตราและหลักเกณฑ์ที่อธิบดีกำหนดจะต้องได้รับอนุญาตจาก อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายก่อน
ค. การส่งไปฝึกงานเกิน 45 วัน ต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีหรือ ผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายก่อน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
ก. 30 วัน ค. 15 วัน
ข. 10 วัน ง. 7 วัน
ตอบ ค. 15 วัน
มาตรา 51 เมื่อคนหางานเดินทางไปถึงประเทศที่ตนไปทำงานให้คนหา งานแจ้งเป็นหนังสือให้สำนักงานแรงงานไทยในประเทศดังกล่าว ทราบ ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่เดินทางไปถึงโดยระบุชื่อ ภูมิลำเนาในประเทศไทย สถานที่อยู่ และสถานที่ทำงานในต่างประเทศ ในกรณีที่ไม่มีสำนักงานแรงงาน ไทยในประเทศดังกล่าวให้แจ้งเป็นหนังสือให้สถานทูตไทยหรือสถานกงสุลไทย ในประเทศนั้นหรือสถานทูตไทยหรือสถานกงสุลไทย ที่รับผิดชอบในการดูแลคน ไทยในประเทศนั้นทราบภายในระยะเวลาดังกล่าว
ก. มาตรา 51 ค. มาตรา 53
ข. มาตรา 52 ง. มาตรา 54
ตอบ ข.มาตรา 52
ก. เงินอุดหนุนจากรัฐบาล
ข. เงินหรือทรัพย์สินอื่นที่มีผู้อุทิศให้
ค. ดอกผลของกองทุน
ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา 52 ให้จัดตั้งกองทุนขึ้นกองทุนหนึ่งในกรมการจัดหางานเรียก ว่ากองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เพื่อใช้จ่ายใน กิจการตาม มาตรา 53 โดยประกอบด้วยเงินและทรัพย์สินอื่น ดังต่อไปนี้ (1) เงินอุดหนุนจากรัฐบาล
(2) เงินที่ผู้รับอนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ นายจ้าง หรือคนหางานส่งเข้ากองทุนตามพระราชบัญญัตินี้
(3) ดอกผลของกองทุน
(4) เงินหรือทรัพย์สินอื่นที่มีผู้อุทิศให้
(5) หลักประกันที่ตกเป็นของกองทุนตาม มาตรา 34
เงินและทรัพย์สินอื่นตามวรรคหนึ่ง ให้ส่งเข้ากองทุนโดยไม่ต้องนำส่ง กระทรวงการคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
ก. จัดการให้คนหางานซึ่งถูกทอดทิ้ง อยู่ในต่างประเทศได้เดิน ทางกลับประเทศไทย
ข. ให้การสงเคราะห์แก่คนหางานซึ่งไปหรือจะไปทำงานในต่าง ประเทศหรือทายาทโดยธรรมของบุคคลดังกล่าว
ค. การคัดเลือกและทดสอบฝีมือ และการฝึกอบรมคนหางานก่อน จะเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
ก. นายทะเบียนจัดหางานกลาง
ข. ผู้อำนวยการสำนักงาน บริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ
ค. อธิบดีกรมการจัดหางาน
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
ตอบ ค.อธิบดีกรมการจัดหางาน
มาตรา 54 ให้มีคณะกรรมการกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไป ทำงานในต่างประเทศประกอบด้วยอธิบดีเป็นประธานกรรมการ และบุคคลอื่น ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งอีกไม่เกินหกคนเป็นกรรมการและให้ผู้อำนวยการสำนักงาน บริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศเป็นกรรมการและเลขานุการ
ก. 2 ปี ค. 4 ปี
ข. 3 ปี ง. 5 ปี
ตอบ ข.3 ปี
ก. เสนอคำแนะนำต่อรัฐมนตรีในการออกระเบียบตาม มาตรา 52 และ มาตรา 53
ข. ให้คำปรึกษาแนะนำแก่อธิบดี นายทะเบียน และพนักงานเจ้าหน้าที่ ในการปฏิบัติการที่เกี่ยวกับกองทุนตามพระราชบัญญัตินี้
ค. เบิกจ่ายเงินจากกองทุนเพื่อใช้จ่ายในกิจการตาม มาตรา 53
ง. ถูกเฉพาะ ก และ ข
ตอบ ง.ถูกเฉพาะ ก และ ข
ก. ปลัดกระทรวงแรง งานและสวัสดิการสังคม
ข. อธิบดีกรมการจัดหางาน
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
ง. นายทะเบียนจัดหางานกลาง
ตอบ ก. ปลัดกระทรวงแรง งานและสวัสดิการสังคม
ก. เสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบายและมาตรการ ในการ จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน
ข. ให้คำปรึกษา และแนะนำเกี่ยวกับมาตรฐานการจ้างแรงงานไทย เพื่อไปทำงานในต่างประเทศแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ค. เสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีเกี่ยวกับมาตรการในการแก้ไขปัญหาใน การจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
ก. สำนักงานจัดหางาน ค. บริษัทจัดหางาน
ข. ห้างหุ้นส่วนจัดหางาน ง. กรมการจัดหางาน
ตอบ ก.สำนักงานจัดหางาน
ก. สำนักงานจัดหางาน ค. บริษัทจัดหางาน
ข. ห้างหุ้นส่วนจัดหางาน ง. ถูกทั้ง ข และ ค
ตอบ ง. ถูกทั้ง ข และ ค
ก. เข้าไปในสำนักงานหรือสถานที่อื่นที่เกี่ยวกับการจัดหางาน การฝึก งานหรือการทดสอบฝีมือในเวลากลางวันหรือในขณะทำการเพื่อตรวจสอบและ ควบคุมให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
ข. ยึดหรืออายัดสมุดทะเบียน บัญชี เอกสารหรือหลักฐานอื่นที่เกี่ยว ข้องกับการจัดหางาน การฝึกงานหรือการทดสอบฝีมือ ในกรณีที่มีเหตุอันควร เชื่อว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้
ค. เรียกหรือสั่งให้ผู้รับอนุญาตจัดหางาน ผู้จัดการ ตัวแทนจัดหางาน ลูกจ้าง คนหางาน ผู้ส่งคนไปฝึกงาน คนฝึกงาน ผู้รับอนุญาตดำเนินการทดสอบ ฝีมือ หรือบุคคลซึ่งเกี่ยวข้องให้ถ้อยคำ หรือข้อเท็จจริงหรือส่งเอกสาร หรือ หลักฐานอื่นใดเพื่อประกอบการพิจารณาได้
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
ก. ผู้รับอนุญาตไม่ปฏิบัติหรือจัดการแก้ไขให้ถูกต้อง ตามคำสั่งของนาย ทะเบียนตาม มาตรา 69 วรรคสอง ภายในระยะเวลาที่กำหนด
ข. ผู้รับอนุญาตเคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตมาแล้วยังไม่เกินหนึ่งปี หรือ เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตมาแล้วสองครั้ง และมีเหตุที่จะต้องถูกสั่งพักใช้ใบ อนุญาตอีก2
ค. นายทะเบียนเห็นว่าผู้รับอนุญาตไม่สามารถปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ นี้ หรือ กฎกระทรวงหรือระเบียบที่ออก ตามพระราชบัญญัตินี้ได้อีกต่อไปแล้ว
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
ก. 45 วัน ค. 90 วัน
ข. 30 วัน ง. 180 วัน
มาตรา 72 ผู้รับอนุญาตซึ่งถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือถูกสั่งเพิกถอนใบ อนุญาตมีสิทธิอุทธรณ์ ต่อรัฐมนตรีได้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่ง
คำวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด
ก. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ
ง. จำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000 บาทถึง 50,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ข.จำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 77 ผู้ใดแสดงตนเป็นลูกจ้างหรือตัวแทนจัดหางานของผู้รับ อนุญาตอันเป็นเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสามปี หรือปรับตั้งแต่ สองหมื่นบาทถึงหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ก. ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
ข. ปรับ 20,000 บาท หรือ 2 เท่าของจำนวนเงินที่ต้องส่งเข้ากองทุนสุดแต่จำนวนใดจะสูงกว่า
ค. ปรับ 20,000 บาท หรือ 3 เท่าของจำนวนเงินที่ต้องส่งเข้ากองทุนสุดแต่จำนวนใดจะสูงกว่า
ง. ปรับ 20,000 บาท หรือ 4 เท่าของจำนวนเงินที่ต้องส่งเข้ากองทุนสุดแต่จำนวนใดจะสูงกว่า
ตอบ ค.ปรับ 20,000 บาท หรือ 3 เท่าของจำนวนเงินที่ต้องส่งเข้ากองทุนสุดแต่จำนวนใดจะสูงกว่า
มาตรา 84 ผู้รับอนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศผู้ใด ไม่ส่งเงินเข้ากองทุนตาม มาตรา 37 ต้องระวางโทษปรับสองมื่นบาทหรือ สามเท่าของจำนวนเงินที่ต้องส่งเข้ากองทุน สุดแต่จำนวนใดจะสูงกว่า
ก. จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 70,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ค. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 85 ผู้รับอนุญาตจัดหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศผู้ใด รับ ค่าบริการหรือค่าใช้จ่ายจากคนหางานแล้ว ไม่จัดส่งคนหางานเพื่อไปทำงาน ในต่างประเทศโยไม่มีเหตุผลอันสมควร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
47. ผู้ใดโฆษณาการจัดหางานโดยฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด
ก. จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 70,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ค.จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 88 ผู้ใดโฆษณาการจัดหางานโดยฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนดตา มาตรา 66 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ก. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 หรือปรับตั้งแต่ 60,000 บาทถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกตั้งแต่ 2 ปีถึง 10 หรือปรับตั้งแต่ 60,000 บาทถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 10 หรือปรับตั้งแต่ 60,000 บาทถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ง.จำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 10 หรือปรับตั้งแต่ 60,000 บาทถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 91ตรี ผู้ใดหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือสามารถส่ง ไปฝึกงานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด จากผู้ถูกหลอกลวงต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ สามปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ก. 1 ฉบับ ค. 3 ฉบับ
ข. 2 ฉบับ ง. 4 ฉบับ
ตอบ ค.2 ฉบับ คือ
พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528
พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2537
ก. พระราชบัญญัติ จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2511
ข. พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528
ค. พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2537
ง. ไม่มีข้อถูก
ตอบ ค. พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2537